| การจัดการเรียนรู้รูปแบบซิปปา | |
| 
 | |
| ลักษณะของกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา | |
|         
   
 |            การจัดกิจกรรมการเรียนรูปแบบซิปปา  มีการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้  เพื่อส่งเสริมให้เกิดผลกับผู้เรียนดังนี้  
           1. เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมทางร่างกายและอารมณ์  จิตใจ กิจกรรมการเรียนรู้ ควรมีความหลากหลาย ให้โอกาสผู้เรียนได้มีการเคลื่อนไหว (physical  movement) เป็นระยะ ตามความเหมาะสมกับวัย และความสนใจของผู้เรียน   
           2. เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทางด้านสติปัญญา  และอารมณ์ กิจกรรมการเรียนรู้ ต้องมีลักษณะกระตุ้น และท้าทายความคิด ทำให้ผู้เรียนเกิดความจดจ่อผูกพันกับสิ่งที่คิด  ส่งผลให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี การเรียนรู้ทางสติปัญญา แบ่งออกเป็น 2  ประเภท ดังนี้            ดังนั้นจึงสามารถบอกได้ว่าโครงสร้างสติปัญญาของผู้เรียน  ประกอบด้วยโครงสร้าง ความรู้ที่สามารถปรับเปลี่ยน และขยายออกได้ โดยอาศัยองค์ประกอบ  3 ประการ คือ 
           3. เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมาส่วนร่วมทางสังคม  และอารมณ์ กิจกรรมการเรียนรู้จึงควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบตัว  ดังนี้ 
           จากแนวคิดและลักษณะของกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา  ดังกล่าว พิมพ์พันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข  (2548, หน้า 41-43) ได้กล่าวถึงความหมาย  ตัวอักษรย่อที่มาของคำว่า “CIPPA” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้           C มาจากคำว่า Construct หมายถึง การสร้างความรู้ตามแนวคิดของ Constructivism กล่าวคือ กิจกรรมการเรียนรู้ที่ดีควรเป็นกิจกรรม ที่ช่วยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง  ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ และเกิดการเรียนรู้ที่มีความหมายแก่ตนเอง การที่ผู้เรียนมีโอกาสสร้างความรู้ด้วยตนเองนี้  เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทางสติปัญญา           I มาจากคำว่า Interaction  หมายถึง การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น และสิ่งแวดล้อมรอบตัว กิจกรรมการเรียนรู้ที่ดีจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับบุคคล  และแหล่งความรู้ที่หลากหลาย ได้รู้จักกันและกัน ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ความคิดประสบการณ์แก่กันและกันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้  ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทางสังคม           P มาจากคำว่า Physical  Participation หมายถึง การให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเคลื่อนไหวร่างกาย โดยการทำกิจกรรมในลักษณะต่าง  ๆ ซึ่งเป็นการช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทางด้านร่างกาย          P มาจากคำว่า Process  Learning หมายถึง การเรียนรู้กระบวนการ ต่าง ๆ ของกิจกรรม การเรียนรู้ที่ดีควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียน  ได้เรียนรู้กระบวนการต่าง ๆ ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น กระบวนการแสวงหาความรู้  กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการพัฒนาตนเอง เป็นต้น การเรียนรู้กระบวนการมีความสำคัญเช่นเดียวกับการเรียนรู้ด้านเนื้อหาสาระต่าง  ๆ การเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการเป็นการช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทางด้านสติปัญญาอีกทางหนึ่ง          A มาจากคำว่า Application หมายถึง การนำความรู้ที่ได้มาไปประยุกต์ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์จากการเรียน  และช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นเรื่อย ๆ กิจกรรมการเรียนรู้ที่มีแต่เพียงการสอนเนื้อหาสาระให้ผู้เรียนเข้าใจ  โดยขาดกิจกรรมการนำไปประยุกต์ใช้ จะทำให้ผู้เรียนขาดความเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติ  ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้ไม่เกิดประโยชน์เท่าที่ควร   การจัดกิจกรรมที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้นี้ เท่ากับเป็นการช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลาย  ๆ ด้าน แล้วแต่ลักษณะของสาระและกิจกรรม 
 
 อ้างอิงจาก พิมพันธ์ เดชะคุปต์. (2548). วิธีวิทยาการสอนวิทยาศาสตร์ทั่วไป. กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ(พว.). 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 |