|            ทิศนา  แขมมณี   (2542, หน้า 6-7) ได้กล่าวถึงหลักการจัดกิจกรรมการเรียนรูปแบบซิปปา  ไว้ว่า กิจกรรมการเรียนรู้ ควรมีคุณสมบัติดังนี้1. ช่วยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้  ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ด้วยตนเอง (Construct)
 2. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด  (Participation)
 3. ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน  แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิด ความรู้ ตลอดจนเรียนรู้จากกันและกัน (Interaction)
 4. ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการควบคู่กันไปกับผลงาน  (Process &  Product)
 5. ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้  (Application)
   จากแนวคิดในการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา  ของทิศนา แขมมณี  ดังกล่าวหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  หลักของโมเดลซิปปา (CIPPA Model) ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้  โดยทิศนา แขมมณี (2545, หน้า 281-282) ได้อธิบายขั้นตอนสำคัญในการจัดกิจกรรม  การเรียนการสอนตามรูปแบบซิปปา ไว้ดังนี้
 
          ขั้นที่  1 การทบทวนความรู้เดิม  ขั้นนี้เป็นการดึงความรู้เดิมของผู้เรียนในเรื่องที่จะเรียนต่อไป  เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมในการเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมของตน  ซึ่งผู้สอนอาจใช้วิธีการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
 
          ขั้นที่  2 การแสวงหาความรู้ใหม่  ขั้นนี้เป็นการแสวงหาข้อมูล  ความรู้ใหม่ที่ผู้เรียนยังไม่มีจากแหล่งข้อมูลหรือแหล่งความรู้ต่าง ๆ ซึ่งครูอาจเตรียมมาให้ผู้เรียนหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลต่าง  ๆ เพื่อให้ผู้เรียนไปแสวงหาก็ได้
 
          ขั้นที่  3 การศึกษาทำความเข้าใจข้อมูล/ความรู้ใหม่ และเชื่อมโยงความรู้ใหม่กับความรู้เดิมขั้นนี้เป็นขั้นที่ผู้เรียนจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับข้อมูล/ความรู้ที่หามาได้ ผู้เรียนจะต้องสร้างความหมายของข้อมูล/ประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยใช้กระบวนการต่าง ๆ ด้วยตนเอง เช่นใช้กระบวนการคิด และกระบวนการกลุ่มในการอภิปรายและสรุปความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลนั้น  ๆ ซึ่งอาจจำเป็นต้องอาศัยการเชื่อมโยงกับความรู้เดิม
 
         ขั้นที่  4 การแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจกับกลุ่ม  ขั้นนี้เป็นขั้นที่ผู้เรียนอาศัยกลุ่มเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของตน  รวมทั้งขยายความรู้ความเข้าใจของตนให้กว้างขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนได้แบ่งปันความรู้ความเข้าใจของตนแก่ผู้อื่น  และได้รับประโยชน์จากความรู้  ความเข้าใจของผู้อื่นไปพร้อม  ๆ กัน
 
         ขั้นที่  5 การสรุปและการจัดระเบียบความรู้  ขั้นนี้เป็นขั้นของการสรุปความรู้ที่ได้รับทั้งหมด  ทั้งความรู้เดิมและความรู้ใหม่ และจัดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นระบบระเบียบ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนจดจำสิ่งที่เรียนรู้ได้ง่าย
 
        ขั้นที่  6 การปฏิบัติ และ/การแสดงผลงาน  หากข้อความรู้ที่ได้เรียนรู้มาไม่การปฏิบัติ ขั้นนี้เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ผู้เรียนได้มีโอกาสแสดงผลงานการสร้างความรู้ของตนเองให้ผู้อื่นรับรู้  เป็นการช่วยให้ผู้เรียนตอกย้ำหรือตรวจสอบของตน และช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์  แต่หากต้องมีการปฏิบัติตามข้อความรู้ที่ได้
 ขั้นนี้จะเป็นขั้นปฏิบัติ และมีการแสดงผลงานที่ได้ปฏิบัติด้วย
 
         ขั้นที่  7 การประยุกต์ใช้ความรู้  ขั้นนี้เป็นขั้นของการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนการนำความรู้  ความเข้าใจของตนไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความชำนาญ ความเข้าใจ  ความสามารถในการแก้ปัญหาและความจำในเรื่องนั้น ๆ
 หลังจากการประยุกต์ใช้ความรู้ อาจมีการนำเสนอผลงานจากการประยุกต์อีกครั้งก็ได้  หรืออาจไม่มีการนำเสนอผลงานในขั้นที่ 6 แต่นำมารวมแสดงในตอนท้าย  หลังขั้นการประยุกต์ใช้ก็ได้เช่นกัน
 
            ขั้นตอนตั้งแต่ขั้นที่  1-6 เป็นกระบวนการของการสร้างความรู้ (construction of  knowledge) ซึ่งครูสามารถจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมีโอกาสปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน  (interaction) และฝึกฝนทักษะกระบวนการต่าง ๆ (process  learning) อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขั้นตอนแต่ละขั้นตอนช่วยให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมหลายหลายที่มีลักษณะให้ผู้เรียนได้มีการเคลื่อนไหวทางกาย  ทางสติปัญญา ทางอารมณ์ และทางสังคม  อย่างเหมาะสมอันช่วยให้ผู้เรียนตื่นตัว  (active) สามารถรับรู้และเรียนรู้ได้อย่างดี จึงกล่าวได้ว่าขั้นตอนทั้ง  6 มีคุณสมบัติตามหลักการ CIPP ส่วนขั้นตอนที่  7 เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้ (application)  จึงทำให้รูปแบบนี้มีคุณสมบัติครบตามหลัก  CIPPA  
           วัฒนาพร ระงับทุกข์  (2542, หน้า 8) ได้กล่าวว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรูปแบบซิปปา  สามารถใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ว่า กิจกรรมนั้นเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางหรือไม่  โดยนำเอากิจกรรมในแผนการสอนไปตรวจสอบตามขั้นตอนการเรียนรูปแบบซิปปา  ดังภาพประกอบ  5   
        
          | ขั้นนำ  | เตรียมความพร้อมในการเรียน  และกระตุ้นความสนใจ  |  
          |   |  
          | ขั้นกิจกรรม  | จัดกิจกรรมตามหลักการ  เพื่อให้ผู้เรียนได้ 1.  สร้างความรู้ด้วยตนเอง  (Construct)
 2.  มีปฏิสัมพันธ์  (Interaction)  ช่วยกันเรียนรู้
 3.  มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้  (Participation)
 4.  เรียนรู้กระบวนการควบคู่ไปกับผลงานและข้อความรู้  (Process  and  Product)
 5.  นำความรู้ไปใช้  (Application)
 |  
          |   |  
          | ขั้นวิเคราะห์  | อภิปรายผลจากกิจกรรม 1.  วิเคราะห์  อภิปรายผลงานและข้อความที่สรุปได้
 จากกิจกรรม  (Product)
 2.  วิเคราะห์  อภิปราย     กระบวนการเรียนรู้  (Process)
 |  
          |   |  
          | ขั้นสรุป/ประเมิน | สรุป/  ประเมินผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ |  ตาราง  ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรูปแบบซิปปาที่มา. จาก  แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (หน้า 8),โดยวัฒนาพร ระงับทุกข์, 2542,  กรุงเทพมหานคร: ผู้แต่ง
 
            สรุปว่ารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนแบบซิปปา  จัดเป็นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างเหมาะสม ได้แก่ การให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง     การให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมทางด้านร่างกาย  อารมณ์ สติปัญญา และสังคม การให้ผู้เรียนได้เรียนรู้กระบวนการ และมีผลงานจากการเรียนรู้  การให้ผู้เรียนนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ผลที่ผู้เรียนจะได้รับจากการเรียนรู้ตามรูปแบบซิปปา  กล่าวคือ ผู้เรียนจะเกิดความเข้าใจในสิ่งที่เรียน  สามารถอธิบาย ชี้แจง ตอบคำถามได้ดี  นอกจากนั้นยังได้พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์  การคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นกลุ่ม  รวมทั้งเกิดความใฝ่รู้อีกด้วย     อ้างอิงจาก
 ทิศนา  แขมมณี. (2542). การจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.  ทิศนา  แขมมณี. (2545). ศาสตร์การสอน   องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วัฒนาพร  ระงับทุกข. (2542).  แผนการสอนที่เนนผูเรียนเปนศูนยกลาง (พิมพครั้งที่  2).    กรุงเทพฯ:   ม.ป.ท.                                 |