การศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพอาณาจักรมอเนอราอาณาจักรโพรทิสตา:: ลักษณะสำคัญของโพรทิสต์:: แบบฝึกที่ 3.1:: ความหลากหลายของโพรทิสต์:: แบบฝึกที่ 3.2อาณาจักรพืชอาณาจักรฟังไจสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังสัตว์มีกระดูกสันหลังDownload เอกสารเผยแพร่กลับหน้าหลัก
|
อาณาจักรโพรทิสตา (Kingdom Protista)
กำเนิดโพรทิสต์ ถ้าเรามองไปรอบ ๆ ตัวเราในทุกหนทุกแห่ง ทั้งบนบก ในน้ำ ในอากาศ บนต้นไม้ บนดิน ในอาคารบ้านเรือน บนร่างกายของสัตว์ รวมถึงบนร่างกายของมนุษย์เอง จะพบมีสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ จำนวนมากมาย ทั้งที่มองเห็นด้วยตาเปล่า หรืออาจจะต้องมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ จึงจะมองเห็นรูปร่างที่แท้จริง ในอดีตสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถูกแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 อาณาจักรใหญ่ ๆ คือ อาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตว์ ต่อมาเมื่อมีการศึกษาสิ่งมีชีวิตจำนวนมากขึ้นทำให้เกิดปัญหาการจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิตบางกลุ่มที่มีลักษณะร่วมที่คล้ายทั้งพืชและสัตว์อยู่ใน ในปี ค.ศ. 1866 Ernst Haeckel นักชีววิทยาชาวเยอรมัน ได้เสนอชื่อเรียกกลุ่มสิ่งมีชีวิตเหล่า นี้ว่า โพรทิสตา (protista) ซึ่งหมายถึง “สิ่งมีชีวิตพวกแรก ๆ” ขึ้นมาใช้ จึงทำให้แยกสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีลักษณะของพืชหรือสัตว์อย่างชัดเจนออกจากอาณาจักรพืชและอาณาจักรสัตว์ แล้วตั้งเป็นอาณาจักรใหม่ ชื่อ "อาณาจักรโพรทิสตา" โดยเรียกสิ่งมีชีวิตในกลุ่มนี้ว่า “โพรทิสต์” ซึ่งสามารถพบสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรโพรทิสตาได้ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบนบก ในน้ำ บนต้นไม้ บนดิน ในอาคารบ้านเรือน และบนร่างกายของสัตว์ชนิดต่าง ๆ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามีโพรทิสต์อยู่ในโลกนี้ไม่น้อยกว่า 60,000 ชนิด ลักษณะสำคัญของโพรทิสต์
2. วงชีพไม่มีระยะเอ็มบริโอ (embryo) สิ่งมีชีวิตอาณาจักรโพรทิสตา ไม่พบเอ็มบริโอปรากฏในวงชีพซึ่งต่างจากพืชและสัตว์ที่มีเอ็มบริโอพัฒนามาจากไซโกต (zygote) ในวงชีพ สำหรับโพรทิสต์เมื่อเซลล์สืบพันธุ์ปฏิสนธิและได้ไซโกตแล้ว ไซโกตจะมีการแบ่งแบบไมโอซิส (meiosis) ได้เซลล์ที่มีโครโมโซม 1 ชุด (n) เจริญเป็นโพรทิสต์ต้นใหม่ต่อไป เช่น Chlamydomonas sp. แต่มีโพรทิสต์บางกลุ่มที่ไซโกตเจริญเป็นต้นใหม่ที่มีโครโมโซม 2 ชุด (2n) อยู่ใน ธรรมชาติ แล้วค่อยแบ่งแบบไมโอซิส เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ที่มีโครโมโซม 1 ชุด (n) ในภายหลัง เช่น Derbesia sp. เป็นต้น
3. รูปร่าง ประกอบด้วยเซลล์แบบง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน มีหลายรูปแบบ เช่น เซลล์เดี่ยว (unicellular) พบอาศัยแขวนลอยอยู่ในน้ำหรืออิงอาศัย
4. การเคลื่อนที่ของโพรทิสต์ ส่วนใหญ่เคลื่อนที่ไม่ได้แต่มีบางกลุ่มเคลื่อนที่ได้โดยอาศัย ออร์แกเนลล์พิเศษ ได้แก่
รูปแบบการดำรงชีวิตของโพรทิสต์ 1. ผู้ผลิต (producer) ได้แก่ โพรทิสต์ที่มีออร์แกเนลล์ที่เรียกว่าพลาสติด สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้จึงผลิตอาหารหรือเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์มาไว้ในรูปของพลังงานเคมีเพื่อถ่ายทอดไปยังสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เช่น สาหร่ายต่าง ๆ 2. ผู้บริโภค (consumer) ได้แก่ โพรทิสต์ที่กินผู้ผลิตเพื่อให้ได้พลังงาน ไม่สามารถสร้างอาหารเองได้ เป็นกลุ่มโพรทิสต์ที่ไม่มีพลาสติดหรือพลาสติดไม่สามารถทำงานได้ เช่น กลุ่มไดโพรโมแนด สกุล Giardia สกุล Trichomonas และกลุ่มอะมีบา
เป็นต้น 3. ผู้สลายสารอินทรีย์ (decomposer) เป็นโพรทิสต์ที่ได้พลังงานโดยการย่อยสลายซากอินทรีย์ต่าง ๆ เช่น กลุ่มราเมือก
การสืบพันธุ์ของโพรทิสต์ 2. การสืบพันธุ์แบบอาศัย (sexual reproduction) โดยทั่วไปเซลล์ของโพรติสต์จะสร้างเซลล์สืบพันธุ์ขึ้นมาจากเซลล์ที่เป็นเซลล์เวจเกตเททีฟ (vegetative cell) หรือเซลล์ที่เติบโตเต็มที่ (mature cell) โดยการเปลี่ยนแปลงตัวเซลล์เอง ในกรณีที่มีโครโมโซมเพียง 1 ชุด หรือผ่านกระบวนการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส (meiosis) ในกรณีที่มีโครโมโซม 2 ชุด เพื่อให้ได้เซลล์สืบพันธุ์ที่มีจำนวนโครโมโซมเพียง 1 ชุด เมื่อเซลล์สืบพันธุ์ที่ต่างแบบกันแต่อาจจะมีรูปร่างและขนาดเหมือนกันหรือต่างกันมารวมกัน จะได้เซลล์ที่มีโครโมโซมจำนวน 2 ชุด เรียกว่า ไซโกสปอร์ (zygospore) ซึ่งอาจจะเจริญเป็นเซลล์ใหม่ หรืออาจจะแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ได้ ซูโอสปอร์ที่มีโครโมโซม 1 ชุด จำนวน 4 สปอร์ เจริญเป็นโพรทิสต์ต้นใหม่ต่อไป
3. การสืบพันธุ์แบบคอนจูเกชัน (conjugation) เป็นการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศอีกวิธีหนึ่ง เกิดในโพรทิสต์ที่มีเซลล์สืบพันธุ์ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ อาจมีรูปร่างและขนาดเหมือนกันแต่มีพันธุกรรมแตกต่างกัน สร้างหลอดมาเชื่อมติดกันแล้วถ่ายทอด โพรโทพลาสต์จากเซลล์หนึ่งไปยังอีกเซลล์หนึ่งผ่านหลอดที่ต่อระหว่างเซลล์ (conjugation tube) ภายหลังจากการรวมกันของโพรโทพลาสต์ทั้งสอง และเกิดการปฏิสนธิได้ไซโกต (zygote) ที่มีโครโมโซม 2 ชุดแล้ว
|
||||||||||
รวบรวมเรียบเรียงโดย ครูนันทนา สำเภา โรงเรียนปทุมราชวงศา |