รู้ไว้ห่างไกลโรค

 

จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค

จุลินทรีย์

ประเภทของจุลินทรีย์

    :: ไวรัส

    :: แบคทีเรีย

    :: สาหร่ายเซลล์เดียว

    :: โพรโทซัว

    :: รา

โรคที่เกิดจากจุลินทรีย์

    :: โรคติดเชื้อทางระบบหายใจ

    :: โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธุ์

    :: โรคติดเชื้อทางการกินอาหาร

    :: โรคติดเชื้อที่นำโดยแมลงหรือสัตว์

 

โรคติดต่ออุบัติใหม่

โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

     :: โรคไข้กาฬหลังแอ่น

     :: โรคติดเชื้อเสร็พโตค็อกคัสซูอิส

     :: โรคทูลารีเมีย

     :: โรคเมลิออยโดซิส

     :: โรคแอนแทรกซ์

โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อไวรัส

๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดโพรโทซัว

โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากพรีออน

 

การเสริมสร้างสุขภาพและการป้องกันโรค

๐ การเสริมสร้างสุขภาพ

๐ การสร้างกำลังใจปกป้องสุขภาพ

๐ การใช้หลักพุทธธรรมปกป้องสุขภาพ

 

 

   

โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

             โรคติดเชื้อเสร็พโตค็อกคัสซูอิส (Streptococcus suis)

          โรคติดเชื้อสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus suis โดยการสัมผัสสุกรติดโรค หรือการบริโภคเนื้อหรือเลือดสุกรดิบ โดยมีสุกรเป็นสัตว์นำโรค

          อาการที่พบได้แก่ มีไข้ คลื่นเหียน ปวดศีรษะ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบ มีจ้ำเลือด เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอักเสบ ผู้ป่วยอาจสูญเสียการได้ยิน จนถึงขั้นหูหนวก ภายหลังที่หายจากอาการป่วยแล้วอาจจะมีความผิดปกติในการทรงตัว ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตเนื่องมาจากการติดเชื้อในกระแสโลหิต  ระยะฟักตัวของโรคประมาณ 1-3 วัน

          การวินิจฉัยสามารถให้การวินิจฉัยได้จากประวัติการสัมผัสโรค ลักษณะอาการของผู้ป่วย การตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมทั้งการตรวจพบเชื้อทางห้องปฏิบัติการ การเก็บตัวอย่างจากเลือด น้ำไขสันหลัง ของเหลวภายในข้อนอกจากนี้ปัจจุบันสามารถตรวจเชื้อโดยวิธี Polymerase Chain Reaction (PCR) ช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนในสุกรจะเน้นอวัยวะที่ได้รับผลจากการติดเชื้อ และเกิดความผิดปกติ เช่น หัวใจ ปอด ม้าม ไต สมอง ต่อมน้ำเหลือง หนองในข้อ รก ตัวอ่อนในแม่อุ้มท้อง และนมจากเต้านมอักเสบ ตัวอย่างทั้งหมดควรนำมาเพาะเชื้อโดยเร็ว ไม่ช้ากว่า 3 ชั่วโมง การเก็บในอาหารเลี้ยงเชื้อจะช่วยรักษาสภาพของตัวอย่างส่งตรวจ

          การติดต่อผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อการติดโรคในภาวะปกติ ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร คนทำงานในโรงฆ่าสัตว์ คนชำแหละเนื้อสุกร สัตวบาล และสัตวแพทย์ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผล รอยถลอก หรือเยื่อบุตา รวมทั้งการบริโภคเนื้อหรือเลือดสุกรที่ ไม่ผ่านการปรุงสุก

          การรักษาโรคนี้สามารถรักษาให้หายโดยการให้ยาปฏิชีวนะ โดยยาที่รักษาได้ผลได้แก่ ampicillin, penicillin, cephalosporin และ ciprofloxacin รายงานผลการรักษาระยะหลัง พบว่าได้ผลดีต่อการใช้ยา ceftriaxone ขนาด 2 กรัม ร่วมกับ vancomycin ในขนาด 1 กรัมทุก 12 ชั่วโมง และ dexamethasone ในขนาด 0.15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัวหนึ่งกิโลกรัม เข้าหลอดเลือดทุก 6 ชั่วโมง

สถานการณ์โรคติดเชื้อเสร็พโตค็อกคัสซูอิส ในประเทศไทย

          ในปี พ.ศ.2551 สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ได้รับรายงานผู้ป่วยติดเชื้อ Streptococcus suis รวมทั้งหมด 230 ราย อัตราป่วย 0.36 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 11 ราย อัตราตาย 0.02 ต่อแสนประชากร อัตราป่วยตายร้อยละ 4.78 ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในเขตจังหวัดภาคเหนือ เช่น เขตตรวจราชการ 15 (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน) พบผู้ป่วย 145 ราย เสียชีวิต 4 ราย เขตตรวจราชการ 16 (น่าน พะเยา เชียงราย แพร่) พบผู้ป่วย 31 ราย เสียชีวิต 3 ราย เขตตรวจราชการ 17 (ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์) พบผู้ป่วย 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย เขตตรวจราชการ 18 (กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี) พบผู้ป่วย 27 ราย เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยเสียชีวิตส่วนใหญ่มีอาการสมองอักเสบ ประชากรกลุ่มเสี่ยง คือกลุ่มที่รับประทานเนื้อสุกรดิบ/เลือดดิบ หรือทำงานเกี่ยวข้องกับการชำแหละเนื้อสุกร สัตวบาล สัตวแพทย์ และมีประวัติการดื่มสุราเป็นประจำ ยังไม่พบการติดต่อจากคนสู่คน

          จำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิสในประเทศไทยอาจมีจำนวนมากกว่านี้ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในการตรวจทางห้องปฏิบัติการซึ่งไม่สามารถตรวจได้ทุกแห่ง
และแพทย์ยังไม่คุ้นเคยกับโรค ทำให้ขาดการตระหนักในการวินิจฉัย และโรคนี้ยัง
ไม่เข้าสู่ระบบการรายงานโรค อย่างไรก็ตาม โรคนี้จัดเป็นโรคติดต่อที่เกิดประปราย
ซึ่งอาจไม่เป็นที่รู้จักมากนักหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเผยแพร่ข้อมูลความรู้เรื่องโรคและ
การป้องกันควบคุมโรคให้กับบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขได้รับทราบ เพื่อประโยชน์
ในการวินิจฉัย ป้องกัน และควบคุมโรค นอกจากนี้ ควรเผยแพร่ความรู้การป้องกันโรคนี้ให้กับ
ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร หรือผู้ที่จะต้องเกี่ยวข้องกับ
เนื้อสุกรชำแหละ เช่น คนงานในโรงฆ่าสัตว์ เป็นต้น ซึ่งควรกำหนดมาตรการความร่วมมือ
ระหว่างประเทศด้านป้องกันและควบคุมโรคทั้งในคนและสัตว์ที่ชัดเจน

          สถานการณ์ของโรคโรคติดเชื้อเสร็พโตค็อกคัสซูอิส ในต่างประเทศ
         พ.ศ.2550 : เดือนกรกฎาคม ประเทศเวียดนาม มีรายงานการติดเชื้อ จำนวน 42 ราย และ 2 ราย มีอาการรุนแรง และในเดือนตุลาคม เมืองแมนนิโทบา ประเทศแคนาดา มีรายงานพบผู้ป่วยหญิงวัย 59 ปี มีอาการไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ และอาเจียน จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยรายนี้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่เลี้ยงสุกร และมีอาชีพเลี้ยงสุกร


         การติดเชื้อสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิสในทวีปอเมริการเหนือ พบ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ Serotype 2 และ 14 โดยมีรายงานพบ 2 รายในประเทศแคนาดา และอีก 2 ราย ในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นมีรายงานการเกิดโรคเกิดขึ้นในหลายประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก และประเทศไทย