รู้ไว้ห่างไกลโรค |
|||
จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค :: ไวรัส :: แบคทีเรีย :: โพรโทซัว :: รา :: โรคติดเชื้อที่นำโดยแมลงหรือสัตว์
๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย :: โรคติดเชื้อเสร็พโตค็อกคัสซูอิส :: โรคแอนแทรกซ์ ๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อไวรัส :: โรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน รุนแรง :: ไข้หวัดนก :: โรคมือเท้าปากจาก Enterovirus71 :: โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์และเฮนดรา ๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดโพรโทซัว ๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากพรีออน
การเสริมสร้างสุขภาพและการป้องกันโรค ๐ การใช้หลักพุทธธรรมปกป้องสุขภาพ
|
โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อไวรัส โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์และเฮนดรา เชื้อนิปาห์ไวรัส มีการระบาดครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย ในช่วงเดือนกันยายน พ.ศ.2541 ถึงเมษายน พ.ศ.2542 พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 265 ราย และมีผู้เสียชีวิต 105 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 40 ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาชีพเลี้ยงสุกร ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ หรือมีการสัมผัสสุกรป่วย ทำให้มีการทำลายสุกรไปกว่า 1.2 ล้านตัว คิดเป็นการสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่า 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในขณะเดียวกัน ประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีการนำเข้าสุกรจากประเทศมาเลเซียก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยในเดือนมีนาคม พ.ศ.2542 พบผู้ป่วยถึง 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย การระบาดครั้งถัดมาเกิดขึ้นระหว่างมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2544 ที่เมือง Siliguri ประเทศอินเดีย พบผู้ป่วย 66 ราย เสียชีวิตสูงถึง 45 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 68 ต่อปี เดือนเมษายนของปีเดียวกัน มีการระบาดของเชื้อนิปาห์ไวรัสเกิดขึ้นในประเทศบังคลาเทศ ที่เมือง Meherpur พบผู้ป่วย 13 ราย เสียชีวิต 9 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 69 หลังจากนั้นประเทศบังคลาเทศมีการระบาดของโรคเกือบทุกปี ดังนี้
การระบาดที่มาเลเซียเกิดจากเชื้อนิปาห์ไวรัสสายพันธุ์เดียว แตกต่างจากการระบาดที่บังคลาเทศซึ่งเกิดจากหลายสายพันธุ์ ทำให้มีลักษณะอาการทางคลินิกที่หลากหลาย ผลการสอบสวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อนิปาห์ไวรัสในบังคลาเทศจากการระบาด 4 ครั้งแรก สรุปได้ว่าการติดเชื้อนิปาห์ไวรัสเกิดขึ้นในทุกกลุ่มอายุ และอาการไข้ อาการทางสมอง ไอ และอาการทางระบบทางเดินหายใจ พบได้เป็นส่วนใหญ่ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อในบังคลาเทศ อาการรุนแรงทางระบบประสาทก็พบได้เช่นกัน ภาวะแทรกซ้อนที่เรื้อรังและรุนแรง ก็พบได้ในผู้รอดชีวิตหลายราย ซึ่งเป็นขนาดปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อนิปาห์ไวรัส สิ่งสำคัญในอนาคต คือ การพัฒนาระบบเฝ้าระวังและการสอบสวนการระบาดของการติดเชื้อนิปาห์ไวรัส โดยเฉพาะกลยุทธในการป้องกันการติดต่อและการพัฒนาแนวทางการรักษาผู้ป่วยที่อยู่เขตพื้นที่ยากจน ในประเทศไทย ทีมวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสภากาชาดไทย พบค้างคาวแม่ไก่ติดเชื้อไวรัสนิปาห์ประมาณร้อยละ 7 ในบางพื้นที่และอยู่ระหว่างการสำรวจเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังตรวจพบ RNA ไวรัสในน้ำลายและปัสสาวะของค้างคาวด้วย ดังนั้น พื้นที่เสี่ยงดังกล่าวจึงควรเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และป้องกันไม่ให้โรคแพร่มายังสัตว์เลี้ยงตามมาตรการของกรมปศุสัตว์. นับจากนั้นมา ยังไม่พบการระบาดของโรคนี้ และในประเทศไทยก็ยังไม่เคยพบการระบาดของโรคนี้เช่นกัน ไวรัสเฮนดราอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับไวรัสนิปาห์ ถูกจัดในจีนัส Henipavirus ในวงศ์ Paramyxoviridae แยกเชื้อได้ครั้งแรกในปี พ.ศ.2537 ไวรัสเฮนดราก่อให้เกิดโรคขึ้นในม้าของรัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย มีการระบาดรวม 3 ครั้ง ทำให้ม้าตายไป 16 ตัว และพบผู้เสียชีวิตจากอาการทางระบบหายใจหรือสมองอักเสบรุนแรง ผู้ป่วย 2 รายแรกติดเชื้อจากการสัมผัสม้าในช่วงที่ม้าล้มป่วย รายที่ 3 แสดงอาการใน 13 เดือนถัดมา หลังจากที่มีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบแบบไม่รุนแรงมาโดยตลอด และผู้ป่วยก็เสียชีวิตจากภาวะสมองอักเสบจากอาการเห่อของเชื้อไวรัสซ้ำขึ้น พบว่าค้างคาวกินผลไม้ (flying fox) ในสกุล Pteropus เป็นแหล่งรังโรคในธรรมชาติ โดยค้างคาวมีการติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 40 และเชื้อที่แยกได้ ไม่ก่อให้เกิดโรคในค้างคาว
|
||