การศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ
|
ไฟลัมแอนเนลิดา (Phylum Annelida)
สัตว์ในไฟลัมแอนเนลิดา มีลำตัวกลมยาว ลำตัวแบ่งออกเป็นปล้องๆคล้ายวงแหวนต่อกันเห็นได้ชัดเจน ภายในมีเยื่อกั้น ตามลำตัวมีขนสั้นๆยื่นออกมาเรียกว่า setae (หรือ chaetae) ใช้ในการเคลื่อนที่หรือว่ายน้ำ ทำให้ในบางชนิดดูคล้ายกับเป็นขาของมัน สัตว์ในไฟลัม แอนเนลิดามีระบบหมุนเวียนโลหิตแบบปิด มีระบบประสาท มีทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์ และมีอวัยวะขับถ่ายเรียกที่เรียกว่า nephridia ส่วนมากมีทั้งสองเพศอยู่ในตัวเดียวกันแบบที่เรียกว่าเป็นกะเทย สืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ สัตว์ในไฟลัมนี้มีทั้งที่อาศัยอยู่ในทะเล ในน้ำจืด และบนบก ในทะเลนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพวกไส้เดือนทะเล และแม่เพรียงหรือตัวสงกรานต์ (nereis) สำหรับบนบกที่รู้จักกันดี ได้แก่ ไส้เดือนดิน (earthworm) ซึ่งช่วยทำให้ดินร่วนซุย มีอากาศและน้ำ รวมทั้งธาตุอาหารสะสมอยู่ในดิน เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช
ส่วนปลิงและทาก (leech) ที่ดำรงชีวิตเป็นปรสิต ดูดเลือดคนและสัตว์อื่นๆ นั้นก็จัดเป็นสัตว์ในไฟลัมนี้เช่นเดียวกัน โดยการดูดเลือดของสัตว์อื่นรวมทั้งคน เมื่อใช้เขี้ยวกัดผิวหนังโฮสต์ ปลิงและทากจะปล่อยสารคล้ายยาชา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บและปล่อยสารฮิรูดิน (hirudin) เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัว และสารอื่นๆอีกมากมาย จึงมีการนำปลิงบางชนิดมาใช้ในการบำบัดโรคต่างๆการใช้ปลิงในการบำบัดโรค พบว่ามีมานานแล้วตั้งแต่ในยุคสมัยกรีก โรมันและอาหรับ เมื่อประมาณกว่า 2,500 ปีที่ผ่านมา โดยคนในสมัยนั้นนิยมนำปลิงมาใช้ในการดูดเลือดเสียออกจากร่างกาย ในศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาเริ่มทำในเชิงการค้าโดยมีการเพาะเลี้ยงปลิงและส่งออกขายให้กับทางโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อใช้ในการรักษาโรค ในธรรมชาติปลิงจะหาเหยื่อโดยการใช้ประสาทสัมผัสกับส่วนไขหรือน้ำมันที่อยู่บนผิวหนัง จากบาดแผลที่มีเลือด ความร้อน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออกมาจากเหยื่อในทางการแพทย์ แพทย์จะใช้วิธีนำปลิงไปวางบนตำแหน่งที่ต้องการรักษาพบว่าแพทย์สามารถใช้ปลิงรักษาโรคต่อไปนี้ได้ เช่น ฝีหนองที่บวมอักเสบ โรคหัวใจ โรคไขข้อ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ โรคตึงเครียดของกล้ามเนื้อ การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด หรืออาการปวดของกระดูกสันหลัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังนิยมใช้ปลิงกับการทำศัลยกรรมพลาสติก (plastic surgery) อีกด้วย ไส้เดือนดินเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในดิน โดยการขุดรูทำให้ดินเป็นโพรงอากาศแล้วจึงแทรกเข้าไปอาศัยอยู่ในดินได้ และนอกจากนี้ไส้เดือนดินยังกินอินทรีย์สาร ซากพืชซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยเป็นอาหาร และกากอาหารที่ถ่ายออกมาและเป็นปุ๋ยแก่พืช และทำให้ดินร่วนซุย
|
|||
รวบรวมเรียบเรียงโดย ครูนันทนา สำเภา โรงเรียนปทุมราชวงศา |